หลวงพ่อชม วัดเขานันทาพาสุภาพ จ.ปราจีนบุรี รูปซีเปียยุคกลาง หลังไตรสรณคมน์ ปี2523-25

ประวัติโดยย่อ หลวงพ่อชม อนํคโณ วัดทุ่งยาว(เขานันทาพาสุภาพ) ท่านเกิดเมื่อวันที่ 19 พย 2453 เป็นพระเกจิที่มรณภาพตรงกับวันที่เกิดคือ ในวันที่ 19 พย 2528 สิริอายุได้ 75 ปี เมื่ออายุได้ราวๆ 20 ปี ท่านเดินทางไปบวชกับอุปัชฌาย์นนท์ วัดหนองโพธิ์ จ.นครนายก ภายหลังลาสิกขา ออกมาเป็นฆาราวาส ถือเพศเป็นดาบสนุ่งขาว เป็นชีปะขาวถือศีลแปด ท่านปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดเพื่อแสวงหาความหลุดพ้น โดยพักอยู่ตามป่าเขา อยู่กระต๊อบเล็กๆ น้อยๆ บ้าง อยู่ตามบ้านเรือนบ้าง ประวัติในการปฏิบัติธรรมของท่านน่าสนใจศึกษามาก หลวงพ่อชม ท่านเน้นการปฏิบัติภาวนามุ่งตรงเข้านิพพานเป็นอารมณ์ ท่านสร้างบารมีแบบพระโพธิสัตว์ ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์ เพื่อให้มีบารมี 30 ทัศเต็ม ท่านจึงมีสัจจะอธิษฐานบารมีได้สำเร็จเร็ว มีเหล่าเทวดาแห่กันมาช่วยให้สำเร็จทุกครั้ง ในเรื่องประสบการณ์ด้านจิตวิญญาณที่ท่านเล่าให้ศิษย์ฟังก็ไม่ธรรมดา หลวงพ่อชม เป็นพระสุปฏิปันโณที่หาได้ยากยิ่งรูปหนึ่งของเมืองไทย ต่อมาท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุ อีกครั้ง ในประวัติของท่านไม่ได้เล่าละเอียดว่าบวชเมื่ออายุเท่าไหร่ แต่ผมอ่านจากประวัติตอนบวชหลวงพ่อน่าจะอายุประมาณ 40-50 ปีแล้ว ทราบคร่าวๆ ว่าท่านเข้ามาบวชที่วัดชิโนรส บางกอกน้อย กรุงเทพ เมื่อบวชแล้วก็ได้ธุดงค์ปฏิบัติตามป่าเขาเป็นส่วนใหญ่ บวชไม่กี่พรรษาท่านก็ได้แสดงปาฏิหารย์ต่อหมู่ลูกศิษย์ รูปถ่ายวิญญาณที่ท่านได้ไปถ่ายในห้องภาพแห่งหนึ่งที่จังหวัดสระบุรี พอถ่ายเสร็จล้างออกมากลายเป็นอีกรูปนึง คือใบหน้าของหลวงพ่อกลายเป็นหน้าหนุ่ม ไม่เหมือนตอนถ่าย(อายุราวๆ 50 ปี) ส่วนมือกับช่วงแขนก็เหี่ยวย่นตามอายุ หลวงพ่อชมเป็นผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เขานันทาพาสุภาพ ที่จังหวัดปราจีนบุรี ประมาณปี 2511-12 ท่านบรรลุธรรมถึงขั้น "อนาคามี" แม้แต่หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน (เทพเจ้าแห่งเมืองหน่อไม้ไผ่ตง) ยังเอ่ยปากชมท่านว่าไม่ธรรมดา หลังจากมรณภาพ สังขารของท่านยังอยู่ ไม่เน่าเปื่อย ใครผ่านไปผ่านมาแวะกราบท่านได้ครับ

เล่าประสบการณ์จริงจากพระอาจารย์สด ตอนที่เป็นเณรอยู่ที่วัดอินทารามใต้ แขวงตลาดพลู ก.ท.ม. ได้ไปกับหลวงพ่อชม อนํคโณ เพื่อไปพิธีพุทธาภิเษกวัดดังที่จังหวัดเพชรบูรณ์(หลวงพ่อชื่อดัง) ตอนปี2519 ซึ่งตอนนั้นยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน หลวงพ่อชมจะนั่งเป็นองค์สุดท้าย เมื่อได้ฤกษ์อธิษฐานจิต หลวงพ่อชมท่านก็นั่งลืมตาชันเข่า มือซ้ายจับสายสิญจน์ ส่วนมือขวาก็ฉันหมากของท่านไปเรื่อย สักพักก็มีนายทหารที่นิมนต์หลวงพ่อชมมาร่วมพิธี ก็เข้ามาถามหลวงพ่อ เพราะสงสัยว่าทำไมไม่เห็นหลวงพ่อชมนั่งหลับตาเข้า(ฌาณ) แบบเกจิรูปอื่นเขา หลวงพ่อท่านก็นิ่ง ไม่ได้ตอบอะไร เมื่อครั้นเสร็จพิธีสมัยนั้นนิยมลองตั้งแต่เสร็จพิธีใหม่ๆ ก็มีการนำพระเครื่องไปลองยิง พระเครื่องที่อยู่หน้าเกจิต่างๆ ไล่เรียงมา ผลออกมาตั้งแต่องค์แรกทหารเอาไปลองยิง ออกหมด แต่ก็ไม่โดน ส่วนพระที่หน้าหลวงพ่อชมปลุกเสกทหารเอาไปลองยิง ลูกกระสุนด้าน ยิงไม่ออก ลองยิงตั้งหลายนัด สุดท้ายคนมาแย่งขอไปจนหมด แถมบางคนยังตามไปที่วัดเขานันทาเพื่อเช่าพระเครื่องของหลวงพ่ออีก

อีกประสบการณ์เมื่อปี2525 เป็นวันแซยิดครบรอบ 72 ปี หลวงพ่อชม ก็ได้มีพิธีพุทธาภิเษกเหรียญรุ่น3 และพระผงรูปเหมือนท่าน มีพระเกจิอาจารย์สายพระป่ามากันหลายรูป เช่น หลวงพ่อมหาวิบูลย์ อ.แม่สอด จ.ตาก หลวงพ่อประยงค์ วัดเขาตะแบง จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อยูร, หลวงพ่อทูล จ.พิจิตร ส่วนหลวงพ่อสาม จ.สุรินทร์ มากราบหลวงพ่อชม เรียกอาจารย์ใหญ่ และหลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.โคราช ก็มา แต่มาถึงท่านก็เข้ามายืนตรงหน้าหลวงพ่อชม ประลอง(ฤทธิ์)เลย หลวงพ่อชมท่านก็นั่งลืมตา ชันเข่า ฉันหมากของท่านไปเรื่อยอยู่แบบนั้นเหมือนเคย ผ่านไปสัก 10 นาที หลวงพ่อพุธท่านก็ก้มลงกราบหลวงพ่อชม หลวงพ่อชมท่านบอกว่า "กราบครั้งเดียวก็พอ" หลวงพ่อพุธท่านพูดว่า "ไม่ได้ครับพระคุณท่าน ต้องไตรสรณคมน์กราบ 3 ครั้งครับ" แล้วหลวงพ่อชมก็เลยนิมนต์หลวงพ่อพุธนั่งอธิษฐานจิตด้วยกัน คือที่หลวงพ่อพุธเข้ามาหาเพราะได้ยินกิตติศัพท์หลวงพ่อชม

ด้านประสบการณ์วัตถุมงคลของท่าน ต้องถามคนตลาดพลูครับว่าแน่แค่ไหน มีถึงขั้นแทงกันจนมีดงอแต่ไม่ระคายผิว อธิษฐานจิตนึกขอสิ่งใดก็มักได้ผล ประสบการณ์พระเครื่องของท่านสูงครับ นับไม่ถ้วนจริงๆ

#บารมีอนํคโณ(ชม)